5753 จำนวนผู้เข้าชม |
ภาวะวูบหมดสติ (Syncopal Attack)
ภาวะวูบหมดสติคืออะไร
ภาวะวูบหมดสติ (Syncopal Attack) หมายถึงภาวะที่มีการสูญเสียการรับรู้สติ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะได้แก่ หมดสติเฉียบพลัน เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และสามารถฟื้นคืนสติได้ด้วยตัวเอง (Transient loss of consciousness : TLOC)
เกิดอะไรขึ้นในขณะที่วูบหมดสติ
การหมดสติ เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองลดลงชั่วขณะ ทำให้สมองที่เป็นศูนย์ควบคุมการรู้สติขาดออกซิเจนชั่วคราวจึงทำให้ผู้ป่วยหมดสติ
อาการแสดงที่พบในขณะหมดสติ ได้แก่
- เรียกไม่รู้สึกตัว
- ล้มลงกับพื้น ทรงตัวไม่อยู่
- อาจมีอาการเกร็งที่มือ, เท้า, ตาค้างชั่วขณะ
- ปลายมือ ปลายเท้าเย็น, เหงื่อออกที่ใบหน้า, หน้าและริมฝีปากซีด
- อาจมีอาการอุจจาระ และ ปัสสาวะราด
- ผู้ป่วยจะจำเหตุการณ์ตอนหมดสติไม่ได้
- ระยะเวลาการหมดสติ พบได้ตั้งแต่ 30 วินาที – 5 นาที ขึ้นอยู่กับสุขภาพพื้นฐานเดิมและอายุของผู้ป่วย
- มีอาการเตือนล่วงหน้าหรือไม่ ผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการเตือนล่วงหน้าก่อนหมดสติ เช่น รู้สึกหวิวๆ มึนศีรษะ, โคลงเคลง, ตาพร่า เห็นสีวูบวาบ เหมือนตัวลอยๆ, คลื่นไส้
สาเหตุของการหมดสติมีอะไรบ้าง
1. สาเหตุที่มาจากโรคของหัวใจโดยตรง เช่น
– หลอดเลือดหัวใจตีบ
– ลิ้นหัวใจตีบ
– หัวใจเต้นผิดจังหวะทั้งชนิดเร็วและช้า
– กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวผิดปกติ, ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
– กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ
2. สาเหตุที่มาจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ จะพบในบางสถานการณ์ที่จำเพาะ เช่น
– หลังการไอ จาม เบ่งอุจจาระ ปัสสาวะ
– ยืนนานๆ ในที่มีคนแออัด หรืออากาศร้อนจัด
– กลัวการเจาะเลือด กลัวเข็มฉีดยา
– หลังการออกกำลังกาย
พบในโรคเรื้อรังที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท, เส้นประสาทเสื่อม
– เบาหวาน (Orthostatic hypotension)
– โรคทางสมองบางอย่างที่มีระบบประสาทอัตโนมัติเสื่อม เช่น พาร์กินสัน, สมองเสื่อม
– อันตรายต่อไขสันหลัง
3. ภาวะการสูญเสียเลือด หรือ ขาดน้ำ
4. ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดความดันโลหิต, ยาขับปัสสาวะ, ยาต้านเศร้า, ยารักษาต่อมลูกหมาก
เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ควรทำอย่างไร
เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้ คือ
- ให้ผู้ป่วยนอนราบกับพื้นที่สะอาด ปลอดภัย
- ไม่มุงดู เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
- ตะแคงศีรษะไปด้านข้าง ป้องกันลิ้นตก
- ถ้ากำลังรับประทานอาหารอยู่ มีอาหารในปาก มีฟันปลอมอยู่ ควรใช้ผ้าล้วงเศษอาหารออกจากปาก และถอดฟันปลอมได้ ให้ช่วยถอดฟันปลอม
- เรียกรถฉุกเฉิน หรือนำส่งโรงพยาบาล
แนวทางการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วย
การประเมินผู้ป่วยที่มาด้วยอาการวูบหมดสติ แพทย์จะซักประวัติจากผู้เห็นเหตุการณ์ และจากผู้ป่วยภายหลังฟื้นสติแล้ว ตรวจร่างกายในกรณีที่ผู้ป่วยมีสัญญานชีพและอาการทางร่างกายที่ไม่คงที่ พร้อมการรักษาตามสาเหตุของโรคต่อไป
การตรวจเพิ่มเติม
การตรวจพิเศษเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับโรคที่เป็นสาเหตุของการหมดสติ เช่น
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, Holter EKG ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) ในผู้ป่วยที่จำเป็นต้องวินิจฉัยแยกโรคหัวใจบางอย่าง เช่น ลิ้นหัวใจตีบ, กล้ามเนื้อหัวใจหนา
- ตรวจ Till Table Test ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะวูบหมดสติจากความดันต่ำเวลาเปลี่ยนอิริยาบถ Orthotatic Hypotension หรือ ความดันต่ำจากการยืนนานๆ หรือหลังออกกำลังกาย
- ตรวจ Coronary CTA หรือ CAG ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ตรวจ MRI Brain ในผู้ป่วยที่สงสัยภาวะสมองเสื่อม
โรคนี้รักษาอย่างไร
- การรักษาโรคขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้วูบ ซึ่งแพทย์จะรักษาตามเหตุนั้นๆ ได้แก่ การรักษาภาวะโรคหัวใจขาดเลือด (การใช้ยา, การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน)
- การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจในผู้ที่หัวใจเต้นช้าผิดจังหวะ (Pacemaker)
- การใช้ยาบางชนิดในผู้ป่วยที่มี Orthostatic Hypotension
- การแนะนำให้ผู้ป่วยใส่ถุงน่อง เพื่อลดการขยายตัวของหลอดเลืด ในผู้ที่วูบหลังยืนนานๆ
- การป้องกันภาวะวูบ
- การป้องกันการวูบ สามารถทำได้เพื่อลดความรุนแรง ลดความถี่ของการเกิดอาการและลดอุบัติเหตุซ้ำเติมจากการวูบ ได้แก่
- ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ ในที่อากาศร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์, สูบบุหรี่
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างน้อย 4 ครั้ง / สัปดาห์ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที
- นั่งปัสสาวะในผู้ที่วูบหลังเบ่งปัสสาวะ, งดเบ่งอุจจาระและปัสสาวะแรงๆ
- ออกกำลังกายแบบ hand grip exercise ได้แก่ บีบลูกบอลด้วยมือ 2 ข้าง ทำซ้ำๆ ชุดละ 10 ครั้ง อย่างน้อย 2 -3 ชุด /วัน
- หลีกเลี่ยงการไอหรือจามแรงๆ
- หลีกเลี่ยงอาชีพที่จะมีอันตรายจากอุบัติเหตุซ้ำเติมขณะวูบ เช่น ช่างทาสี ช่างไม้ นักบิน หรือคนขับรถรับจ้าง
โรคนี้รักษาหายหรือไม่ เกิดเป็นซ้ำได้หรือไม่
การรักษาและควบคุมภาวะวูบหมดสติ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค เช่น สามารถรักษาได้หายขาดได้ในโรควูบที่มีเหตุจากลิ้นหัวใจตีบ โดยการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ, การผ่าตัดลิ้นหัวใจ, การขยายบอลลูนที่ลิ้นหัวใจ
- การรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยยาหรือการขยายบอลลูน กรณีวูบจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- การรักษาภาวะหัวใจเต้นช้า โดยการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ Pacemaker
- การปรับยาที่เป็นสาเหตุวูบ เช่น หยุดยาขับปัสสาวะ หรือยาที่ขยายหลอดเลือดมากเกินไป
- ภาวะวูบบางอย่างไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น การเสื่อมของระบบประสาทอัตโนมัติ, วูบจากหลอดเลือดขยายตัว แต่สามารถปรับการรักษาเพื่อลดความรุนแรงและความถี่ของโรคได้ โดยการให้ยาที่เหมาะสม ตลอดจนการปรับการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงงานบางอาชีพที่จะมีอันตรายจากการบาดเจ็บซ้ำเติมขณะวูบ เช่น ช่างทาสี นักบิน พนักงานขับรถ
การแนะนำที่สำคัญ
ควรมีการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ ตลอดจนโรคที่มีผลให้เกิดการวูบหมดสติ ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาเมื่อสงสัยว่ามีอาการคล้ายจะวูบหรือเคยมีอาการวูบหมดสติมาก่อน เพื่อจะได้รับการตรวจเพิ่มเติมที่เหมาะสมต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : พญ. ชาดา โชติพันธุ์วิทยากุล
อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด
https://www.vejthani.com/th
สยามสไมล์