1031 จำนวนผู้เข้าชม |
1. เก็บออมก่อนใช้เสมอ
“วิธีออมเงิน” นี้เป็นวิธีที่เราน่าจะได้ยินกันมานาน แต่รู้กันหรือไม่ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ทรงพลังมากที่สุด พี่ทุยเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเจอปัญหาประมาณว่าเหลือเงินอยู่ 500 บาท แต่ต้องใช้ชีวิตให้รอดตลอดอาทิตย์กันมาบ้างแน่ ๆ แล้วก็เป็นอะไรที่น่าแปลก เพราะเราก็มักจะรอดมาได้ทุกครั้ง เหตุผลก็เพราะว่าคนเรามีความสามารถในการปรับตัว
การเก็บออมก่อนใช้ก็เป็นการสร้างสถานการณ์ที่คล้าย ๆ กับที่พี่ทุยพูดถึงไป สมมติว่า เราตั้งใจจะเก็บให้ได้เดือนละ 1,000 บาท แต่ถ้าเราไม่มีการออมก่อนใช้ แปลว่าอาทิตย์สิ้นเดือนนั้นเราจะเงินเหลือ 1,500 บาท แทนที่จะเป็น 500 บาท ทีนี้เราก็จะเริ่มหาข้ออ้าง ข้อแก้ตัวอย่างเช่น “ไว้ก่อนละกัน” “ไว้ค่อยเก็บเดือนหน้าละกัน” เหตุผลสารพัดที่สุดท้ายถูกหยิบยกขึ้นมาทำให้เราเก็บเงินไม่ได้
2. เก็บแบงก์ 50 และหยอดเหรียญใส่กระปุก
อีกวิธีการหนึ่งที่พี่ทุยทำแล้ว รู้ตัวอีกทีก็มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเดือนละหลายพัน การเก็บ ’แบงก็ 50’ และ ‘หยอดเหรียญใส่กระปุก’ หลักการก็คือ ทุกครั้งที่เราได้เงินทอนกลับมาเป็น ‘แบงก์ 50’ หรือ ‘เหรียญ’ อะไรก็ตาม ห้ามใช้เด็ดขาด! ให้เก็บกลับมาบ้าน แล้วหยอดเข้ากระปุกทันที จากนั้นทุกเดือนก็นำเงินในกระปุกนำไปใส่บัญชีธนาคารที่เราเปิดแยกไว้นั่นเอง
3. ทำบัญชีรายจ่าย
จดให้หมด จดให้ครบทุกบาททุกสตางค์ที่เราใช้จ่ายออกไป เพื่อให้เราเห็นภาพการใช้จ่ายของเราในแต่วัน แต่ละสัปดาห์ว่าเราใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ เมื่อเรามีการเริ่มบันทึกว่าเราจ่ายอะไรออกไปบ้าง เราจะเริ่มใช้จ่ายน้อยลงไปแบบไม่รู้ตัว แนะนำ 5 Application ที่ช่วย “จัดการรายรับรายจ่าย”
4. ใช้บัตรเครดิตอย่างพอดี
ส่วนตัวพี่ทุยก็ยังมองว่า ‘บัตรเครดิต’ มีประโยชน์มากกว่าข้อเสีย สำหรับคนที่ใช้เป็น เพราะว่าการใช้จ่ายเงินสดแทบจะไม่ได้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษอะไรกลับมาเลย แต่ถ้าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะได้ทั้งเงินคืน การสะสมแต้ม ต่าง ๆ ซึ่งกฎเหล็กของการใช้ ‘บัตรเครดิต’ มีเพียงข้อเดียวเลยก็คือ.. จะรูดบัตรเครดิตก็ต่อเมื่อเรามีเงินสดจ่าย ณ เวลานั้นเท่านั้น
ถ้าไม่มีก็ห้ามรูดเด็ดขาด เพราะถ้ารูดไปแล้ว ก็แปลว่า เรากำลังดึงเงินในอนาคตออกมาใช้ นอกจากนี้การใช้ จ่ายผ่านบัตรเครดิต ยังช่วยให้เราทำ ‘บัญชีรายจ่าย’ ง่ายขึ้นด้วย เพราะทุกการใช้งานจะถูกบันทึกไว้เสมอ ไม่ต้องกลัวลืมอีกต่อไป!
5. ก่อนซื้อของทุกครั้งคิดอย่างน้อย 3 วัน
คนเรามักจะซื้อของด้วยอารมณ์ วิธีแก้ที่พี่ทุยใช้กับตัวเองและได้ผลมากเลยก็คือ ถ้าจะซื้ออะไรที่ไม่ใช่ของที่ต้องซื้ออยู่ในชีวิตประจำอยู่แล้ว พี่ทุยจะกลับไปนอนคิดอย่างน้อย 3 วัน ว่าเราต้องการของชิ้นนี้จริงหรือเปล่า ซื้อแล้วจะได้ใช้มั้ย ถ้าได้ใช้แล้วจะได้ใช้บ่อยมากแค่ไหน คุ้มค่ากับการจ่ายออกไปหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ตอนช่วงพี่ทุยเริ่มต้นเก็บเงิน หลังจากที่กลับมานอนคิดแล้ว ก็พบว่าไม่จำเป็นต้องซื้อของพวกนั้นเลย ก็จะช่วยทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น
ลองเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองกันดูนะ ของแบบนี้สำคัญที่ตอนเริ่มต้น จะเก็บออมมากหรือน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญ เมื่อได้เริ่ม และเห็นเงินหลักพัน หลักหมื่นในบัญชี มันจะเริ่มมีกำลังใจ แล้วหลังจากนั้นพลังในการออมก็จะมีต่อไปอย่างไม่รู้จบเลยล่ะ
สยามสไมล์